ทางชันขึ้นเขา
– ให้ใช้เกียร์ D หรือ D2-D1 (ขึ้นอยู่กับความชัน น้อย-มาก ถ้าไม่ชันมากใช้แค่เกียร์ D ก็พอ)
– เหยียบคันเร่งตามจังหวะความชัน พยายามให้รอบเครื่องอยู่ประมาณ 2000-3500 (อย่าเร่งมากไป ไม่ควรเกิน 4500)
– เส้นทางปาย จะมีโค้งหักศอกแล้วตั้งชันขึ้นทันทีมากพอสมควร ค่อยๆเร่งเครื่องก่อนเข้าโค้งซัก 10-20 เมตร พอหลุดโค้งเข้าทางชันก็เร่งเพิ่มขึ้นอีกหน่อยจนเข้าทางราบ
– ใช้ความเร็วซัก 50-80 ไม่ต้องแข่งกับใคร มีรถตามหลังก็ชิดซ้ายหน่อย เปิดทางให้เขาแซงไปก่อนก็ได้

การขับรถเกียร์ออโต้ ขึ้นเขาลงเขา สำหรับผู้ยังไม่มีประสบการณ์

*** (สำคัญ) ไปช้าๆใจเย็นๆ และมั่นใจ รถทุกคันทุกขนาดเขาสร้างมาให้ขับขึ้นเขาตามเส้นทางมาตรฐานได้ทั่วโลก
ยกเว้นเส้นทางวิบากหรือรถเก่ามากๆ

ทางชันลงเขา
– ให้ใช้เกียร์ D หรือ D2-D1 (ขึ้นอยู่กับความชัน น้อย-มาก ถ้าไม่ชันมากใช้แค่เกียร์ D ก็พอ)
– ห้ามใส่เกียร์ว่าง ‘N’ ลงเขาเด็ดขาด
– ห้ามย้ำเบรคค้างนานๆ เดี๋ยวผ้าเบรคจะไหม้ คุมรถไม่อยู่แบบที่เขาเรียกว่า “เบรคแตก”
– ไม่จำเป็นไม่ควรเหยียบคันเร่ง ปล่อยให้รถลงมาเองด้วยเกียร์ D/D1-2 และความถ่วงของโลก อย่าเร่งเครื่องโดย
ไม่จำเป็น ใช้ความเร็ว 60-80 อย่าให้เกิน 80 (ไม่ต้องแข่งกับใคร เจ้าพ่อท้องถิ่นมาก็ปล่อยให้เขารีบแซงไปไกลๆ)
– ถ้าเห็นเข็มความเร็วเร่งขึ้นมาที่ 70 ก็แตะเบรคเบาๆเป็นช่วงๆให้รู้สึกว่ารถชลอความเร็วลง
– ก่อนเข้าโค้งหักศอกแล้วลาดลง ให้แตะเบรคลดความเร็วลงมาที่ 40-50 ก็พอ
** ไม่ว่าจะเป็นทางชันขึ้นหรือลาดลง ไม่จำเป็นอย่าขับชิดรถคันหน้า ให้คุมระยะห่างคันหน้าซัก 30-50 เมตร
มีรถจ่อท้ายมาก็ชิดซ้ายให้เขาหน่อยแล้วเปิดสัญญาณไฟให้เขาแซงไป
** ถ้าจำเป็นต้องแซงโดยเฉพาะพวกใหญ่หรือรถช้ามากๆพวกรถบรรทุก ให้รอจังหวะเมื่อเจอทางราบหรือไม่ชันมาก
ให้รีบแซงเมื่อเห็นว่าปลอดภัยแล้ว
** อย่าแซงรถใหญ่รถบรรทุกหนักในช่วงขาลงเขาชัน เพราะรถพวกนั้นจะมีอัตราเร่งสูงให้ช่วงลงเขา

ไปช้าๆแบบนี้รับรองถึงที่หมายแน่นอน อาจจะช้ากว่าคันอื่นซักครึ่งชั่วโมง….ช่างหัวมัน

คงเป็นประโยชน์บ้างสำหรับมือใหม่นะครับ มือเก่ามือเก๋าเชิญตาสะดวกนะครับ

ที่มา xn--12cfjq7bybd8a0cyh4a9czfyg.com